สัญญาณเตือนโรคปวดเข่า และวิธีรักษาโดยแพทย์เฉพาะทาง การสึกกร่อนของกระดูกอ่อนบริเวณในหัวเข่าส่งผลให้เกิดอาการปวดเข่าได้ เนื่องจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งปัจจัยเสี่ยงต่างๆ อีกมากมาย อาทิ พันธุกรรม น้ำหนักตัวที่มากขึ้น อิริยาบถหรือพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่เหมาะสม เช่น การเดิน วิ่ง นั่ง งอเข่า การออกกำลังกายที่หักโหมจนเกินพอดี หรือการได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเข่า จึงเกิดเป็นอาการปวดเข่า ที่อาจทำให้ไม่สามารถประกอบกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ซึ่งความรุนแรงของอาการจะมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับสาเหตุและการดูแลเอาใจใส่อย่างเป็นประจำของแต่ละคน หากผู้ป่วยละเลยการดูแลรักษาอาจทำให้โรคมีอาการหนักยิ่งขึ้น เกิดความเจ็บปวดมากขึ้นและทำให้ข้อเข่าเสื่อมเร็วกว่าปกติ ดังนั้นผู้ที่มีอาการดังต่อไปนี้จึงควรที่จะไปพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อขอคำปรึกษา วินิจฉัยอาการและได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสม เมื่อใดที่ต้องเริ่มสนใจดูแลอาการปวดเข่า โดยปกติความรุนแรงของอาการปวดเข่าจะขึ้นอยู่กับสาเหตุเบื้องต้นหรือปัจจัยเสี่ยงต่างๆ รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่ส่งผลกระทบต่อเข่า โดยผู้ที่มีอาการปวดเข่ามักจะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดหัวเข่าหรือรู้สึกเมื่อยขาเร็วกว่าปกติที่เคนเป็น มีเสียงผิดปกติในข้อเข่าขณะใช้งาน และมีอาการปวด เข่ามีรูปร่างผิดปกติไปจากเดิม เช่น ขาโก่ง เข่าโค้งออก ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการปวดเข่ารุนแรงมากก็อาจทำให้สามารถเดินได้ลำบากมากขึ้น หรือไม่สามารถเดินได้เลย มีอาการบวมแดงเป็นๆ หายๆ เนื่องจากการอักเสบของเยื่อบุข้อ ในบางกรณีที่มีอาการรุนแรงอาจทำให้ผู้ป่วยมีไข้ร่วมด้วย ไม่สามารถยืดเข่า หรือ งอเข่าได้ตามปกติ สังเกตได้จากหลังตื่นนอนจะมีความรู้สึกข้อเข่าฝืดแข็ง และต้องใช้เวลาพักใหญ่ในการเหยียดเข่า เนื่องจากน้ำหล่อเลี้ยงข้อที่เข่าน้อยลง ส่งผลให้ข้อเข่าไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างปกติ หากตอนนี้ใครกำลังมีอาการปวดเข่าและมีอาการอื่นร่วมด้วยดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ก็สามารถเข้ารับคำปรึกษาและการรักษากับแพทย์เฉพาะทางด้านข้อเข่าและข้อสะโพกเทียมได้ที่โรงพยาบาลเวชธานี ซึ่งมีการรักษาวิธีต่างๆ ด้วยเครื่องมือแพทย์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยและได้มาตรฐานสากลของศูนย์ฟื้นฟูข้อเสื่อมที่ได้รับการรับรองคุณภาพมาตรฐานการรักษาจาก […]